tag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post5402813983172739009..comments2024-01-12T18:47:40.621+07:00Comments on สารสนเทศและนวัตกรรมทางสังคมศึกษา: ครั้งที่ 4orapinhttp://www.blogger.com/profile/16065470443811683201noreply@blogger.comBlogger34125tag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-4695015650268288442008-11-28T23:51:00.000+07:002008-11-28T23:51:00.000+07:00นายทวิช ลักษณ์สง่า 0647247ลักษณะของการบูรณาการ1...นายทวิช ลักษณ์สง่า 0647247<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ<BR/><BR/>1.การบูรณาการในลักษณะแรกคือการบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการการเรียนรู้ เนื่องจากองค์ความรู้มีมาก ดังนั้นวิธีการเรียนรู้ในรูปแบบเดิมๆ นั้นอาจไม่เพีงพอต่อการเรียนรู้ได้ ดังนั้นควรให้ผู้เรียนศึกษาความสนใจของตนเองและแสวงหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้เข้าใจและสามารถเรียนรู้ได้<BR/><BR/>2.การบูรณาการในลำดับต่อมาได้แก่ การบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ คือการให้ความสำคัญกับ จิตพิสัย เจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ เพื่อให้การเรียนรู้นั่นมีความมั่นคงจึงจำเป็นต้องให้ผู้เรียนตระหนักเข้าใจจนมีความรู้สึกในการแสวงหาความรู้<BR/><BR/>3.การบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ เพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดทักษะต่างๆ อย่างเต็มที่จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ควรให้ผู้เรียนได้ลงมือ มิใช่แค่ให้เรียนแต่ในตำราเพียงอย่างเดียวเพราะการเรียนที่ได้จากการลงมือทำจะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่า<BR/><BR/>4. การบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับชีวิตประจำวันของนักเรียน คือ การนำความรู้ที่ได้เรียนนั้นนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะการศึกษามุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ โดยการได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการนำเนินชีวิต<BR/><BR/>5.การบูรณาการวิชาต่างๆ เพื่อให้เกิดการนำความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพราะการใช้ชีวิตประจำวัน หือการแก้ไขปัญหาเมื่อได้ประสบไม่สามารถใช้ความรู้ในวิชาเดียว หรือมองวิธีการได้เพียงด้านเดียวผู้เรียนจึงต้องมีความรอบร฿ รู้จักเชื่อมโยงความรู้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด<BR/>อ้างอิงจาก<BR/><BR/>http://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.html<BR/><BR/>http://learners.in.th/blog/ilr/70720?class=yuimenuitemlabel<BR/><BR/>http://course.eau.ac.th/newlib/eaulibrary/newsletter/newsletter12<BR/><BR/>http://www.ttc.ac.th/text/buranakan.html<BR/><BR/>http://www.edu.cmu.ac.th/~soontaree/Pdf/intregation.<BR/><BR/>******************Tawit_Luxsangahttps://www.blogger.com/profile/00922276920123729644noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-23478146979790864862008-11-28T23:30:00.000+07:002008-11-28T23:30:00.000+07:00ลักษณะของการบูรณาการ มีการจัดอยู่หลายอย่างเช่น แบ่...ลักษณะของการบูรณาการ มีการจัดอยู่หลายอย่าง<BR/>เช่น แบ่งโดยรวมจะแบ่งออกเป็น 2ลักษณะคือ <BR/>1) การบูรณาการภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็นการจัด <BR/>การเรียนรู้ที่เชื่อมโยงเนื้อหาด้านความรู้ ทักษะ/<BR/>กระบวนการ หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ใน <BR/>กลุ่มสาระการเรียนรู้นั้นๆ เข้าด้วยกัน เพื่อมุ่งศึกษา<BR/>เกี่ยวกับเรื่องราว ประเด็น ปัญหา หัวข้อหรือ<BR/>ประสบการณ์เรื่องใดเรื่องหนึ่ง<BR/><BR/>2) การบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็น การจัดการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงเนื้อหาด้านความรู้ ทักษะ/กระบวนการ หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตั้งแต่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ขึ้นไปเข้าด้วยกัน เพื่อมุ่งศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราว ประเด็น ปัญหา หัวข้อ หรือประสบการณ์เรื่องใดเรื่องหนึ่งซึ่งช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในเรื่องนั้นๆ อย่างเข้าใจลึกซึ้ง และชัดเจนใกล้เคียงกับความเป็นจริงในชีวิตยิ่งขึ้น<BR/><BR/>แต่โดยส่วนใหญขะสรุปลักษณะของบูรณาการออกเป็น 5 อย่างดังนี้คือ <BR/>1. บูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ ปัจจุบันเนื้อหาความรู้มีมากมายที่จะต้องเรียนรู้หากไม่ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ทันสมัยมาใช้จะทำให้เรียนรู้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดได้จึงต้องมีการนำวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่ๆ มาใช้ เช่น การสอนโดยวิธีการบอกเล่า ท่องจำจะทำให้ได้ปริมาณความรู้หรือเนื้อหาสาระไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้จึงต้องเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เหมาะสม<BR/><BR/>2.บูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และทางจิตใจ การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญแก่เจตคติ ค่านิยม ความสนใจและสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ ก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือศึกษาซึ่งเป็นการจูใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี<BR/><BR/>3.บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำการเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง<BR/><BR/>4.บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนและชีวิตประจำวัน การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตเมื่อผ่านการเรียนรู้แล้วต้องมีความหมายและคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/><BR/>5.บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริงตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียน<BR/><BR/>รูปแบบของการบูรณาการ (Model of integration)<BR/><BR/>โดยทั่วไปมีอยู่ 4 แบบ <BR/><BR/> 1. การบูรณาการแบบสอดแทรก (Infusion)<BR/><BR/> การเรียนรู้แบบนี้ครูจะนำเนื้อหาของวิชาต่างๆ มาสอดแทรกในรายวิชาของตนเองเป็นการวางแผนการสอนและทำการสอนโดยครูเพียงคนเดียว<BR/><BR/>ข้อดี 1. ครูคนเดียวบริหารทั้งเนื้อหาวิชา กิจกรรมการเรียนรู้และเวลาที่ใช้โดยสะดวก<BR/><BR/> 2. ไม่มีผลกระทบกับครูผู้อื่นและการจัดตารางสอน<BR/><BR/>ข้อจำกัด 1. ครูคนเดียวอาจไม่มีความชำนาญในเนื้อหาวิชาบางเรื่อง<BR/><BR/> 2. เนื้อหาวิชาและกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดอาจซ้ำซ้อนกับของวิชาอื่น<BR/><BR/> 3. ผู้เรียนจะมีภาระงานมากเพราะทุกรายวิชาจะต้องมอบหมายงานให้ <BR/><BR/> 2. การบูรณาการแบบขนาน (Parallel)<BR/><BR/> การเรียนรู้แบบนี้ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปต่างคนต่างสอนวิชาของตนเองแต่จะมาวางแผน ตัดสินใจร่วมกันว่าจะจัดแผนการเรียนรู้และจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยมุ่งสอนในหัวเรื่อง (Theme) ความคิดรวบยอด (Concept) และปัญหา (Problem) เดียวกันในส่วนหนึ่ง<BR/><BR/>ข้อดี 1. ครูผู้สอนแต่ละคนยังคงบริหารทั้งเนื้อหาวิชา กิจกรรมการเรียนรู้เวลาโดยสะดวก<BR/><BR/> 2. ไม่มีผลกระทบกับครูผู้อื่นและการจัดตารางสอน<BR/><BR/> 3. เนื้อหาวิชา กิจกรรมการเรียนลดการซ้ำซ้อนลง ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกัน<BR/><BR/>ข้อจำกัด 1. ครูยังคงต้องรับภาระเนื้อหาวิชาที่ไม่ชำนาญ<BR/><BR/> 2. ผู้เรียนยังมีภาระงานมากเพราะทุกรายวิชาจะต้องมอบหมายงานให้<BR/> <BR/> 3. การบูรณาการแบบสหวิทยาการ (Multidiscipline)<BR/><BR/> การเรียนรู้แบบนี้คล้ายกับแบบคู่ขนาน ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปต่างคนต่างสอนวิชาของตน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ของตนเองเป็นส่วนใหญ่ มาวางแผนการสอนร่วมกันในการให้งานหรือโครงการที่มีหัวเรื่อง แนวคิดหรือความคิดรวบยอดและปัญหาเดียวกัน<BR/><BR/>ข้อดี 1. สนับสนุนการทำงานร่วมกันของทั้งผู้สอนและผู้เรียน ลดความซ้ำซ้อนของกิจกรรม<BR/><BR/> 2. ผู้สอนทุกคนและผู้เรียนมีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจน<BR/><BR/> 3. ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการนำความรู้ไปใช้กับงานอาชีพจริง<BR/><BR/>ข้อจำกัด มีผลกระทบต่อการจัดตารางสอนและการจัดแผนการเรียน<BR/> <BR/> 4. การบูรณาการแบบข้ามวิชา (Transdisciplinary)<BR/><BR/> การเรียนรู้แบบนี้ผู้สอนในรายวิชาต่างๆ จะมาร่วมกันสอนเป็นคณะ ร่วมกันวางแผน กำหนดหัวเรื่อง ความคิดรวบยอดและปัญหาเดียวกัน<BR/><BR/>ข้อดี 1. สนับสนุนการทำงานร่วมกันของทั้งผู้สอนและผู้เรียน ลดความซ้ำซ้อนของกิจกรรม<BR/><BR/> 2. ผู้สอนทุกคนและผู้เรียนมีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจน<BR/><BR/> 3. ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการนำความรู้ไปใช้กับงานอาชีพจริง<BR/><BR/>ข้อจำกัด 1. มีผลกระทบต่อการจัดตารางสอนและการจัดแผนการเรียน<BR/><BR/> 2. ผู้สอนต้องควบคุมการเรียนให้ทันตามกำหนด<BR/><BR/><BR/>อ้างอิง<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.สืบค้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2551<BR/>จากhttp://realjune.multiply.com/journal/item/63<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.สืบค้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2551 จากhttp://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/วิธีสอน.doc<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.สืบค้นเมื่อวัยที่ 28 พ.ย.2551 จากhttp://www.kroobannok.com/blog/view.php?article_id=3735<BR/>ลักษณะการบูรณาการ .สืบค้นเมือวันที่ 28พ.ย.2551 จาก http://www.nsdv.go.th/commerce/integrated/integraded.htm<BR/>ลักษณะการบูรณาการ .สืบค้นเมือวันที่ 28พ.ย.2551 จาก www.kpp1.org/naiyana/October/09/51.pptUnknownhttps://www.blogger.com/profile/00049737058288832092noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-91650617049620411902008-11-28T23:25:00.000+07:002008-11-28T23:25:00.000+07:00ลักษณะของบูรณาการ1. การบูรณาการเชิงเนื้อหาสาระ เป...ลักษณะของบูรณาการ<BR/>1. การบูรณาการเชิงเนื้อหาสาระ เป็นการผสมเชื่อมโยงเนื้อหาสาระหรือองค์ความรู้ในลักษณะรวมกัน เนื้อหาสาระที่นำมารวมกันมีลักษณะคล้ายกัน สัมพันธ์กัน หรือต่อเนื่องกัน แล้วเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน <BR/>2. การบูรณาการเชิงวิธีการ เป็นการผสมธีการสอนแบบต่าง ๆ เข้าในการสอน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายวิธี เช่น ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องภูมิปัญญาไทย ครูสามารถบูรณาการเชิงวิธีการด้วยการใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ ได้หลายวิธี ได้แก่ การสนทนา การอภิปราย การใช้คำถาม การบรรยาย การค้นคว้าและการทำงานกลุ่ม การไปศึกษานอกห้องเรียน และการนำเสนอข้อมูล เป็นต้น <BR/>3. การบูรณาการความรู้กับกระบวนการเรียนรู้ โดยออกแบบการเรียนรู้ให้มีทั้งการให้ความรู้และกระบวนการไปพร้อมกัน เช่น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และกระบวนการสร้างความคิดรวบยอดเป็นต้น<BR/>4. การบูรณาการความรู้ ความคิด กับคุณธรรม โดยเน้นทั้งพุทธิพิสัยและจิตพิสัยเป็นการเรียนที่สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อม ๆ กัน เพื่อที่นักเรียนจะได้เป็น “ผู้มีความรู้คู่คุณธรรม” <BR/>5. การบูรณาการความรู้กับการปฏิบัติ เน้นการปฏิบัติจริงควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้<BR/>6. การบูรณาการความรู้ในโรงเรียนกับชีวิตจริงของนักเรียน พยายามให้เด็กได้เรียนรู้เนื้อหาที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าและความหมายในสิ่งที่เรียน<BR/>แหล่งอ้างอิง<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ,เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ย. 51<BR/>http://www.bpcd.net/new_subject/general/Articles/06.pdf<BR/>การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ,เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ย.51 <BR/>www.laem-rang.com/images/1146962073/report104.doc<BR/><BR/><BR/>จิรายุ ตาหล้า 0647246jirayu talah 0647246https://www.blogger.com/profile/02595452327383644168noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-45888082933605521612008-11-28T23:22:00.000+07:002008-11-28T23:22:00.000+07:00วรารักษ์ บุษยานนท์ รหัส 0647256~*ลักษณะการจัดการ...วรารักษ์ บุษยานนท์ รหัส 0647256~*<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ <BR/> นักการศึกษาหลายท่านได้กล่าวถึงลักษณะของการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการไว้หลายลักษณะดังนี้ <BR/>1. บูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ (บูรณาการกระบวนการเรียนการสอน)<BR/> ปัจจุบันเนื้อหาความรู้มีมากมายที่จะต้องเรียนรู้หากไม่ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ทันสมัยมาใช้จะทำให้เรียนรู้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดได้จึงต้องมีการนำวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่ๆ มาใช้ เช่น การสอนโดยวิธีการบอกเล่า ท่องจำจะทำให้ได้ปริมาณความรู้หรือเนื้อหาสาระไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้จึงต้องเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เหมาะสม <BR/>2. บูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และทางจิตใจ (จิตพิสัย) เน้นทั้งความรู้ และเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ สุนทรียภาพ<BR/> การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญแก่เจตคติ ค่านิยม ความสนใจและสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ ก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือศึกษาซึ่งเป็นการจูใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี <BR/>3. บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ เน้นทั้งความรู้และทักษะพิสัย<BR/> การเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง <BR/>4. บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนและชีวิตประจำวัน <BR/> การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตเมื่อผ่านการเรียนรู้แล้วต้องมีความหมายและคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง <BR/>5. บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ (บูรณาการหลักสูตร)<BR/> เพื่อให้เกิดความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริงตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียน<BR/> การบูรณาการโดยสร้างข่ายใยแมงมุม หลักสูตร ข่ายในแมงมุมหลักสูตรจะเป็นภาพทัศน์แสดงให้เห็นกระบวนการบูรณาการการเรียนรู้ต่างๆ กับเนื้อหาที่เด็กต้องการ ประโยชน์ที่ได้ คือ ทำให้ครูรู้ทิศทางเนื้อหาว่าจะสอนอย่างไร สามารถตรวจสอบขอบเขตเนื้อหาได้และยังช่วยครูในการ วางแผนเนื้อหาและแจกกิจกรรมได้อย่างครอบคลุม (กุลยา ตันติผาชีวะ, 2543 : 26-27) 4. การบูรณาการตามแนวหลักสูตรที่กำหนด การบูรณาการประเภทนี้หมายถึงการที่หลักสูตรนั้นๆมีแนวของหลักสูตร ที่เน้นการสอนภาษาแบบ เน้นธรรมชาติ หลักสูตรที่เน้นการสอนแบบโครงการ เป็นต้น การบูรณาการตามแนวหลักสูตรนี้จะเป็นไปตามมโนทัศน์ของแนวคิดหรือทฤษฎีที่เป็น แนวของหลักสูตรนั้นๆ<BR/><BR/>= แหล่งการเรียนรู้ =<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2551. http://learners.in.th/blog/pajeenut/76978<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2551. http://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99.doc<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2551. http://www.kroobannok.com/view.php?article_id=3735<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2551.<BR/>http://www.ripn-math.com/doc/aa_012.doc<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2551.<BR/>http://www.ripn-math.com/doc/aa_012.doc<BR/><BR/>ฝันหวานนะคร่า^^wararakhttps://www.blogger.com/profile/10366990302425166628noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-37610972022176355082008-11-28T23:05:00.000+07:002008-11-28T23:05:00.000+07:00พิชชา สุริอาจ รหัส 0647255ลักษณะการบูรณาการการเรีย...พิชชา สุริอาจ รหัส 0647255<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการการเรียนรู้<BR/><BR/>1.การบูรณาการความรู้ความเข้าใจกับกระบวนการเรียนรู้ <BR/>กระบวนการเรียนรู้เป็นสิ่งที่เน้นในปัจจุบัน เพราะเพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาวิธีการแสวงหาความรู้ และการได้มาซึ่งองค์ความรู้ที่ต้องการ และกระบวนการเรียนรู้เพื่อที่จะเป็นสิ่งที่ตกตะกอนติดตัวผู้เรียนไว้ใช้ได้ตลอดไป<BR/><BR/>2.การบูรณาการสติปัญญากับความรู้สึก<BR/>คือการเน้นทั้งความรู้ และเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ สุนทรียภาพ : การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือศึกษาซึ่งเป็นการจูใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี<BR/><BR/>3.การบูรณาการความรู้ความเข้าใจกับพฤติกรรมที่ต้องการให้แสดงออก<BR/>คือการเน้นทั้งความรู้และทักษะพิสัย : การเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริงมีการแสดงออกได้อย่างเหมาะสม<BR/><BR/>4.การบูรณาการการเรียนรู้ในโรงเรียนกับชีวิตจริงของผู้เรียน<BR/>สิ่งที่ผู้สอนสอนหรือให้ผู้เรียนรู้ในโรงเรียนหรือสถานศึกษา ควรเชื่อมโยงให้สัมพันธ์กับชีวิตของผู้เรียนและเป็นสิ่งที่จะช่วยเหลือนผู้เรียนในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นแรงจูงใจให้ผู้เรียนเกิดความต้องการในการเรียนรู้สิ่งอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น<BR/><BR/>5.การบูรณาการระหว่างวิชาต่าง ๆ<BR/>เป็นการบูรณาการความรู้ของวิชาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือเพื่อตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจเพื่อให้เกิด ความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน<BR/><BR/><BR/>แหล่งอ้างอิง<BR/><BR/>http://course.eau.ac.th/newlib/eaulibrary/newsletter/newsletter12/learn.html<BR/><BR/>http://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/วิธีสอน.doc<BR/><BR/>http://gotoknow.org/blog/pacharee/104992<BR/><BR/>http://www.ttc.ac.th/text/buranakan.html<BR/><BR/>http://learners.in.th/blog/pajeenut/76982<BR/><BR/>November 28, 2008 10:20 PMPitcha0647255https://www.blogger.com/profile/16375786047977189895noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-41848704185404534842008-11-28T22:51:00.000+07:002008-11-28T22:51:00.000+07:00สิทธิชัย กิจถาวร 0647257ลักษณะการจัดการเรียนรู้แ...สิทธิชัย กิจถาวร 0647257<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ แบ่งออกเป็น<BR/><BR/>1. บูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ <BR/>ปัจจุบันเนื้อหาความรู้มีมากมายที่จะต้องเรียนรู้หากไม่ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ทันสมัยมาใช้จะทำให้เรียนรู้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดได้จึงต้องมีการนำวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่ๆ มาใช้ เช่น การสอนโดยวิธีการบอกเล่า ท่องจำจะทำให้ได้ปริมาณความรู้หรือเนื้อหาสาระไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้จึงต้องเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เหมาะสม <BR/>2. บูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และทางจิตใจ <BR/>การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญแก่เจตคติ ค่านิยม ความสนใจและสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ ก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือศึกษาซึ่งเป็นการจูใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี <BR/>3. บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ <BR/>การเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง <BR/>4. บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนและชีวิตประจำวัน <BR/>การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตเมื่อผ่านการเรียนรู้แล้วต้องมีความหมายและคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง <BR/>5. บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ <BR/>เพื่อให้เกิดความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริงตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียน<BR/><BR/>แหล่งอ้างอิงนะครับ<BR/><BR/>http://buranarom.spaces.live.com/Blog/cns!120B998AC062DA4E!271.entry<BR/><BR/>http://www.kroobannok.com/view.php?article_id=3735<BR/><BR/>http://www.nsdv.go.th/commerce/integrated/integraded.htm<BR/><BR/>http://www.kruusa.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=24<BR/><BR/>http://yamong1<BR/>.multiply.com/journal/item/6/6<BR/><BR/>wasun.newsit.es/buranagan.doc<BR/><BR/>ไม่น่าเชื่อ วันนี้จะส่งก่อนเดทไลน์เป็นชั่วโมง มหัสจรรย์ประเทศไทย สุโค่ยยPapaohttps://www.blogger.com/profile/05482321196101099548noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-41707927225450334872008-11-28T22:20:00.000+07:002008-11-28T22:20:00.000+07:00This comment has been removed by the author.Pitcha0647255https://www.blogger.com/profile/16375786047977189895noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-71845481890519697832008-11-28T22:10:00.000+07:002008-11-28T22:10:00.000+07:00อัจฉราพร กลิ่นเกษร รหัส0647260รูปแบบการบูรณาการ ...อัจฉราพร กลิ่นเกษร รหัส0647260<BR/><BR/>รูปแบบการบูรณาการ <BR/><BR/>ประเภทที่ 1 การบูรณาการเนื้อหาและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง มีหลายรูปแบบดังนี้ <BR/><BR/>แบบ ที่ 1 การบูรณาการมโนทัศน์ ในการสอนแต่ละวิชา โดยเฉพาะการสอนภาคปฏิบัติหลักการ และทฤษฎีผู้สอนสอดประสาน มโนทัศน์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในขณะสอนได้ การบูรณาการนี้จะทำให้ผู้เรียนเกิดแนวคิดพื้นฐานที่เป็นส่วนขยายมโนทัศน์ของเรื่องที่เรียน ทำให้มีความ เข้าใจเรื่องที่เรียนในแนวลึกและกว้างอย่างสอดประสาน เช่น การเรียนบทกลอน เด็กควรได้เรียนแนวคิดวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยที่เกี่ยว ข้องกับกลอนอาจรวมถึงการออกเสียง การเปล่งเสียงคำกลอน การใช้บทกลอนในชีวิตประจำวันที่มีผลพวงถึงบทเพลงในปัจจุบัน เป็นต้น <BR/><BR/>แบบที่ 2 การบูรณาการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและบุคลิกภาพ บางครั้งการบูรณาการคงไม่แต่เฉพาะการผนวกเอาสาระวิชาเกี่ยวข้องเข้าในการเรียนการ สอนเท่านั้น การสอนด้านปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มารยาท มนุษยสัมพันธ์ การรู้จักกาลเทศะ การพัฒนาบุคลิกภาพเป็นสิ่งจำเป็นด้วยเช่นกัน การบูรณาการลักษณะนี้ ในอดีตครูไทยให้ความสนใจมากแต่ปัจจุบันได้ยกให้เป็นหน้าที่ของครูฝ่ายปกครองหรือครูสอนศีลธรรม ทำให้เกิดการ แปลกแยกจากตัวเด็ก ทั้งที่การเรียนการสอนทุกวิชาควรบูรณาการสาระต่างๆ นี้เข้าไป แม้แต่ในการทำงานเป็นกลุ่ม แต่ไม่มีความหมายกับการ สร้างความสัมพันธ์ในกลุ่ม ความรับผิดชอบงานของตนเองและกลุ่ม ซึ่งควรมีผลต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและบุคลิกภาพ <BR/><BR/>แบบที่ 3 การบูรณาการทักษะการคิด ในการปฏิรูปการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน นอกจากการสอนโดยเน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง แล้ว ยังมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการคิดด้วย เช่น การคิดแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ ซึ่งการพัฒนาทักษะการคิดนี้สามารถทำ ให้ได้ทุกรายวิชาขึ้นอยู่กับการจัดกิจกรรมที่สร้างเสริมการคิดให้กับเด็ก การเปิดโอกาสให้เด็กได้อภิปราย แสดงความคิดเห็น ใช้กิจกรรมการเรียน การสอนที่เด็กมีโอกาสผลิตผลงานจะพัฒนาการคิดให้กับเด็กมากกว่าการเรียนการสอนที่เด็กเป็นเพียงผู้รับ <BR/><BR/>แบบที่ 4 การบูรณาการเนื้อหา การบูรณาการเนื้อหาโดยสาระที่เกี่ยวข้องมาประสานในการจัดการเรียนการสอนนี้ ฟอการ์ดี (Forgarty,1991:30–31) เสนอแนะการบูรณาการเนื้อหาว่าทำได้ 2 ลักษณะคือ 1.การบูรณาการเนื้อหากับเนื้อหาหรือมโนทัศน์กับมโนทัศน์เพื่อสร้างความเข้าใจ <BR/>2.เชื่อมสานทักษะกับทักษะเข้าด้วยกัน เช่น การสร้างความรับผิดชอบในตนเองร่วมกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรม <BR/><BR/>ประเภทที่ 2 การบูรณาการระหว่างวิชา การบูรณาการแบบนี้เป็นการบูรณาการหลักสูตรซึ่งเคยใช้มานาน เช่นการรวมวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่ศีลธรรม ภูมิศาสตร์เป็นวิชาสังคมศึกษา เป็นต้น ลักษณะของการบูรณาการจะเป็นการนำวิชาที่มีลักษณะกลุ่มเดียวกันมาบูรณาการเป็นเนื้อความเดียวแล้วเรียกชื่อใหม่การบูรณาการแบบนี้จะเกิดวิชา กลุ่มวิชา <BR/><BR/>ประเภทที่ 3 บูรณาการ หลักสูตร เป็นการจัดทำหลักสูตรบูรณาการทั้งหลักสูตรด้วยการพัฒนาหลักสูตรโดยรวมเนื้อหาวิชาที่แยกกระจายออกจากกันตั้งแต่ 2 วิชาขึ้นไป หรือมากกว่าเข้าด้วยกัน มาจัดเป็นกลุ่มเพื่อให้สนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและความต้องการความรู้ที่สมบูรณ์แบบ (McNeil,1981:62) หลักสูตรแบบนี้เน้นประสบการณ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อ'และลดความซ้ำซ้อนของวิชามีการจัดเนื้อหาวิชาเป็นรูปหน่วย(Unit)เป็นโมดูลหรือบูรณาการเป็นวิชาใหม่ <BR/><BR/>วิธีการบูรณาการ <BR/> การดำเนินการเพื่อการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนฟอการ์ตี (Fogarty,1991)ได้แนะนำวิธีการบูรณาการเนื้อหาวิชาตั้งแต่ 2วิชาขึ้นไปว่าควรประกอบด้วยวิธีการบูรณาการ 4 วิธี คือ <BR/><BR/>1.บูรณาการความต่อเนื่องของเนื้อหาวิชา หมายถึง ในการจัดการเรียนการสอนของครูแต่ละหัวข้อเรื่อง ครูต้องจัดเรียงหัวข้อเรื่องหรือ หน่วยที่สอนเกี่ยวข้องกันมาสอนในเวลาเดียวกัน แล้วลำดับเรื่องจากง่ายไปยาก จากใหญ่ไปย่อยโดยให้เกิดความต่อเนื่อง เข่น ครูสอนเรื่อง สัตว์เลี้ยง ควรต่อจากเรื่องปศุสัตว์ เป็นต้น <BR/><BR/>2.บูรณาการระหว่างวิชา หมายถึง การจัดระเบียบการสอนมโนทัศน์ หรือเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนกันใหม่ ด้วยการร่วมมือกันเป็นทีมระหว่างครูผู้สอน เพื่อลดหรือย้ายเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนออกให้มากที่สุด เพื่อลดความซ้ำซ้อนนี้ ควรใช้วิชาที่เกี่ยวข้องกันประสานกัน เช่น วิชาสุขศึกษา การงาน พลศึกษา ร่วมบูรณาการกันเป็นทีมได้<BR/><BR/>3.การบูรณาการโดยสร้างข่ายใยแมงมุม หลักสูตร ข่ายในแมงมุมหลักสูตรจะเป็นภาพทัศน์แสดงให้เห็นกระบวนการบูรณาการการเรียนรู้ต่างๆ กับเนื้อหาที่เด็กต้องการ ประโยชน์ที่ได้ คือ ทำให้ครูรู้ทิศทางเนื้อหาว่าจะสอนอย่างไร สามารถตรวจสอบขอบเขตเนื้อหาได้และยังช่วยครูในการ วางแผนเนื้อหาและแจกกิจกรรมได้อย่างครอบคลุม (กุลยา ตันติผาชีวะ, 2543 : 26-27) <BR/><BR/>4.การบูรณาการตามแนวหลักสูตรที่กำหนด การบูรณาการประเภทนี้หมายถึงการที่หลักสูตรนั้นๆมีแนวของหลักสูตร ที่เน้นการสอนภาษาแบบ เน้นธรรมชาติ หลักสูตรที่เน้นการสอนแบบโครงการ เป็นต้น การบูรณาการตามแนวหลักสูตรนี้จะเป็นไปตามมโนทัศน์ของแนวคิดหรือทฤษฎีที่เป็น แนวของหลักสูตรนั้นๆ<BR/><BR/>ประเภทของการบูรณาการ<BR/>เราสามารถบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนได้เป็นสองแบบ( สุวิทย์ มูลคำ อ้างถึง UNESCO–UNEP,1994: 51) <BR/><BR/>1.การบูรณาการแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary)เป็นการสร้างหัวเรื่อง (Theme) ขึ้นมาแล้วนำเนื้อหาจากวิชาต่าง ๆ มาโยงสัมพันธ์กับหัวเรื่องนั้น ซึ่งบางครั้งก็อาจเรียกวิธีบูรณาการแบบนี้ได้ว่า สหวิทยาการแบบมีหัวข้อ(Themetic Interdisciplinary Studies)หรือบูรณาการที่เน้นการนำไปใช้เป็นหลัก (Application–First Approach) การกำหนดหัวเรื่อง (Theme)ได้แก่ การสร้างหัวเรื่องโดยมีหลักในการกำหนดหัวเรื่องดังนี้<BR/>1.เป็นเรื่องที่ผู้เรียนสนใจ และมีโอกาสได้เลือกเรียน <BR/>2.เป็นเรื่องที่สามารถโยงความสัมพันธ์ได้หลายวิชาหรือหลายกลุ่มประสบการณ์ <BR/>3.เป็นเรื่องที่นักเรียนมีประสบการณ์เดิมอยู่แล้วและสอดคล้องกับชีวิตจริง และมีความหมายต่อผู้เรียน<BR/>4.เป็นเรื่องที่มีแหล่งความรู้ให้ผู้เรียนรู้ได้ศึกษาค้นคิดอย่างหลากหลาย และเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับท้องถิ่นกับความรู้ที่เป็นสากล <BR/>5.เป็นเรื่องที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้เรียนและส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนรอบด้าน การตั้งชื่อต้องทันสมัย และน่าสนใจยั่วยุให้ผู้เรียนอยากรู้ อยากเรียน <BR/><BR/>2.การบูรณาการแบบพหุวิทยาการ (Multidisciplinary) <BR/>เป็นการนำเรื่องที่ต้องการจะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สอดแทรก (Infusion)ไว้ในวิชาต่าง ๆ หรือบูรณาการเน้นเนื้อหาของวิชาเป็นแกนแล้วนำสิ่งที่ต้องการให้เกิดแก่ผู้เรียนเกิดไปสอดแทรกในวิชาแกนดังกล่าวซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะเรียกวิธีบูรณาการแบบนี้ได้ว่า การบูรณาการที่เน้นเนื้อหารายวิชาเป็นหลัก (Discipline First Approach)<BR/><BR/>แหล่งอ้างอิง<BR/>http://www.ttc.ac.th/text/buranakan.html<BR/><BR/>http://www.ripn-math.com/doc/aa_012.doc<BR/><BR/>http://learners.in.th/blog/pajeenut/76982<BR/><BR/>http://learners.in.th/blog/pajeenut/76987ton_orhttps://www.blogger.com/profile/15779142392297023359noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-1095316029615321162008-11-28T17:30:00.000+07:002008-11-28T17:30:00.000+07:00นายกัปปิย เล้าเจริญ รหัส 0647263ลักษณะของการบูรณ...นายกัปปิย เล้าเจริญ รหัส 0647263<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ<BR/>ได้แบ่งลักษณะการบูรณาการ ไว้ 6 วิธี<BR/>1. การบรูณาการเชิงเนื้อหาสาระ<BR/> การบูรณาการเชิงเนื้อหาสาระเป็นการผสมผสานเชื่อมโยงเนื้อหาสาระหรือองค์ความรู้ในลักษณะของการหลอมรวมกัน โดยตั้งเป็นหน่วย (Unit) หรือหัวเรื่อง (Theme) เนื้อหาสาระที่นำมาหลอมรวมกันจะมีลักษณะสัมพันธ์กันหรือคล้ายกัน แล้วเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน<BR/>2. การบูรณาการเชิงวิธีการ<BR/> การบูรณาการเชิงวิธีการเป็นการผสมผสานวิธีการสอนแบบต่าง ๆ เข้าในการสอนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ใช้วิธีสอนหลาย ๆ วิธี ใช้สื่อการเรียนการสอนแบบสื่อประสม ใช้เทคนิคการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้นักเรียนมีโอกาสได้เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอย่างสัมพันธ์กันให้มากที่สุด<BR/>3. การบูรณาการความรู้กับกระบวนการเรียนรู้<BR/> ในปัจจุบันมีการเน้นที่กระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนพัฒนาวิธีการแสวงหาความรู้ และการได้มาซึ่งองค์ความรู้ที่ต้องการ และกระบวนการเรียนรู้จะเป็นสิ่งที่ตกตะกอนติดตัวนักเรียนไว้ใช้ได้ตลอดไป<BR/>โดยครูอาจแนะนำให้นักเรียนใช้กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ในการให้ได้มาซึ่งความรู้ในเรื่องที่ต้องการ<BR/>4. การบูรณาการความรู้ ความคิด กับคุณธรรม<BR/> โดยหลักการแล้วควรให้ความสำคัญแก่ความรู้ และคุณธรรมเท่าเทียมกัน จึงเป็นโอกาสดีที่ครูจะจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนโดยบูรณาการความรู้ ความคิด และคุณธรรมเข้าด้วยกัน อาจเป็นการสอนเนื้อหาสาระโดยใช้วิธีการต่าง ๆ และใช้เทคนิคการสอดแทรกคุณธรรมเข้าไปโดยนักเรียนไม่รู้ตัว จนกระทั่งเกิดการซึมซับเป็นธรรมชาติ<BR/>5. การบูรณาการความรู้กับการปฏิบัติ<BR/> เมื่อเวลาผ่านไป อาจลืมความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้นั้นได้ แต่ถ้าความรู้นั้นเชื่อมโยงไปกับการปฏิบัติจะทำให้ความรู้นั้นติดตัวไปได้ยาวนานไม่ลืมง่าย<BR/>6. การบูรณาการความรู้ในโรงเรียนกับชีวิตจริงของนักเรียน<BR/> สิ่งที่ครูสอนหรือให้นักเรียนรู้ในโรงเรียนหรือสถานศึกษา ควรเชื่อมโยงให้สัมพันธ์กับชีวิต<BR/>ของนักเรียนและเป็นสิ่งที่จะช่วยเหลือนักเรียนในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นแรงจูงใจให้<BR/>นักเรียนเกิดความต้องการในการเรียนรู้สิ่งอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น<BR/><BR/>อ้างอิงจาก<BR/>สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์. “การพัฒนาหลักสูตรบูรณาการสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1<BR/>โรงเรียนวัดเสมียนนารี” วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและ<BR/>การสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2546.<BR/>หทัยกาญจน์ สำรวลหันต์.การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยใช้แหล่งการเรียนรู้ เรื่อง ถลกบาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. นครปฐม : สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2549.<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ย. จาก<BR/>http://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.html<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ย. จาก<BR/>http://realjune.multiply.com/journal/item/63<BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พ.ย.2551 จากhttp://wasun.newsit.es/buranagan.docAnonymoushttps://www.blogger.com/profile/18406566395292926550noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-79995527614954795522008-11-28T13:11:00.000+07:002008-11-28T13:11:00.000+07:00เบญจมาศ บุดศรี รหัส 0647251ลักษณะการจัดการเรียนรู...เบญจมาศ บุดศรี รหัส 0647251<BR/><BR/>ลักษณะการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ มี 5 วิธี ดังต่อไปนี้<BR/><BR/>1.การบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้<BR/>ปัจจุบันเนื้อหาความรู้มีมากมายที่จะต้องเรียนรู้หากไม่ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ทันสมัยมาใช้จะทำให้เรียนรู้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดได้จึงต้องมีการนำวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่ ๆ มาใช้ เช่น การสอนโดยวิธีการบอกเล่า ท่องจำจะทำให้ได้ปริมาณความรู้หรือเนื้อหาสาระไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้จึงต้องเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่เหมาะสม<BR/>2.การบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และทางจิตใจ การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญแก่เจตคติ ค่านิยม ความสนใจและสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ ก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือศึกษาซึ่งเป็นการจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี<BR/>3.การบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ<BR/>การเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง<BR/>4.การบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนและชีวิตประจำวัน การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตเมื่อผ่านการเรียนรู้แล้วต้องมีความหมายและคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/>5.การบูรณาการระหว่างวิชาต่าง ๆ<BR/>เพื่อให้เกิดความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริงตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียน<BR/><BR/>อ้างอิงจาก<BR/>http://www.ttc.ac.th/text/buranakan.html<BR/><BR/>http://realjune.multiply.com/<BR/><BR/>http://www.edu.cmu.ac.th/~soontaree/Pdf/intregation.pdfUnknownhttps://www.blogger.com/profile/15822369122314475388noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-57274527530858298142008-11-28T12:22:00.000+07:002008-11-28T12:22:00.000+07:00กัลยา ภู่ทอง 0647245ลักษณะของการบูรณาการ1. การบูรณ...กัลยา ภู่ทอง 0647245<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ<BR/>1. การบูรณาการระหว่าง โรงเรียนกับบ้านเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนในโรงเรียนกับชีวิตประจำวันที่บ้าน เมื่อเรียนครบถ้วนแล้วผู้เรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแสดงถึงคุณค่าของสิ่งที่เรียนอย่างแท้จริง<BR/>2.การบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้<BR/>เพื่อตอบสนองความสนใจ ที่ขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล(Individual Differences)<BR/>3.การบูรณาการระหว่างความรู้กับการกระทำ ในการแสวงหาความรู้เพื่อเรียนรู้นั้นจะต้องที่การปฎิบัติคือ รู้แล้วต้องลงมือกระทำดังนั้นการบูรณาการข้อนี้เน้นที่ทักษะนิสัย <BR/>4.การบูรณาการระหว่าง พัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ นั่นคือให้ความสำคัญแก่จิตพิสัย คือ เจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ แก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย <BR/>5.การบูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้พร้อมๆ กันเพื่อหล่อหลอมให้เกิดความหลากหลายในชีวิต ทั้งนี้ต้องเหมาะสมกับความต้อง<BR/>การและความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ<BR/><BR/>อ้างอิงจาก<BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน2551.จากhttp://realjune.multiply.com/<BR/>journal/item/63<BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน2551.จากhttp://www.arch.tu.ac.th/research_detail.php?res_id=59<BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน2551.จากhttp://www.ttc.ac.th/text/buranakan.htmlkanlayahttps://www.blogger.com/profile/16932541371202114349noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-60008916087957716432008-11-28T12:08:00.000+07:002008-11-28T12:08:00.000+07:00ประเภทของการบูรณาการ 1.บูรณาการภายในสาระวิชา2.บูรณ...ประเภทของการบูรณาการ <BR/>1.บูรณาการภายในสาระวิชา<BR/>2.บูรณาการระหว่างสาระวิชา แบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้<BR/>2.1 การบูรณาการแบบสอดแทรก เป็นการสอนในลักษณะที่ครูผู้สอนในวิชาหนึ่งสอดแทรกเนื้อหาวิชาอื่น ๆ ในการสอนของตน เช่นการสอนประวัติศาสตร์อยุธยา แล้วแทรกการใช้คำราชาศัพท์เข้าไปในเนื้อหา เป็นต้น<BR/>2.2 การสอนบูรณาการแบบคู่ขนาน เป็นการสอนโดยครูตั้งแต่สองคนขึ้นไป วางแผนการสอนร่วมกันโดยมุ่งสอนหัวเรื่องหรือความคิดรวบยอดหรือปัญหาเดียวกันแต่สอนต่างวิชาและต่างคนต่างสอน <BR/>2.3 การสอนแบบบูรณาการแบบสหวิทยาการ เป็นการสอนลักษณะเดียวกับการสอน<BR/>บูรณาการแบบคู่ขนาน แต่มีการมอบหมายงานหรือโครงงานร่วมกัน เช่นการจัดนิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่น ในกลุ่มสาระสังคมศึกษา กับ การเรียนเรื่องหัตถกรรมจักสาน ในกลุ่มสาระการงานอาชีพ เป็นต้น<BR/>2.4 การสอนบูรณาการแบบข้ามวิชา หรือสอนเป็นคณะ เป็นการสอนที่ครูผู้สอนวิชา<BR/>ต่าง ๆ ร่วมกันสอนเป็นคณะหรือเป็นทีม มีการวางแผน ปรึกษาหารือร่วมกันโดยกำหนดหัว<BR/>เรื่อง ความคิดรวบยอด หรือปัญหาร่วมกัน แล้วร่วมกันสอนนักเรียนกลุ่มเดียวกัน เช่นกรณีนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ เรียนวิชาการจัดนันทนาการกลางแจ้งของคณะศึกษาศาสตร์ แล้วสามารถออกแบบกิจกรรมนันทนาการ โดยนำอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ เช่น กล้องดูดาว มาประกอบได้<BR/><BR/>การบูรณาการแบ่งลักษณะของการบูรณาการออกเป็น 6 ลักษณะ ดังนี้<BR/>1.การบูรณาการเชิงเนื้อหาสาระ เป็นการนำความรู้ที่มีบางส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มาเชื่อมโยงเนื้อหาสาระในลักษณะการหลอมรวมกันแล้วตั้งเป็นหน่วยการเรียนรู้ ( Unit ) หรือหัวเรื่อง ( Theme ) <BR/>2.การบูรณาการเชิงวิธีการ เป็นการนำวิธีการสอนแบบต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการสอน หรือ การสอนเรื่อง อำนาจอธิปไตย แล้วนำกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายวิธี เช่น การสนทนา การอภิปราย การตั้งคำถาม การบรรยาย การค้นคว้าและการทำงานกลุ่ม การไปศึกษานอกห้องเรียน และการนำเสนอข้อมูล มาใช้ในการสอนเรื่องเดียว โดยอาจนำกิจกรรมมาทั้งหมด หรือบางส่วนก็ได้<BR/>3.การบูรณาการความรู้ ความคิด กับคุณธรรม โดยเน้นทั้งพุทธิพิสัยและจิตพิสัยเป็นการเรียนที่สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อม ๆ กัน เพื่อที่นักเรียนจะได้เป็น “ผู้มีความรู้คู่คุณธรรม” <BR/>4.การบูรณาการความรู้กับการปฏิบัติ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริง ควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หรือการเรียนรู้โดยตัวผู้เรียนเอง เช่นการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู หรือการจัดทัศนศึกษา<BR/>5.การบูรณาการความรู้กับกระบวนการเรียนรู้ โดยออกแบบการเรียนรู้ให้มีทั้งการให้ความรู้และกระบวนการไปพร้อม ๆ กัน เช่น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และกระบวนการสร้างความคิดรวบยอดเป็นต้น<BR/>6.การบูรณาการความรู้ในโรงเรียนกับชีวิตจริงของนักเรียน ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เนื้อหาที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าและความหมายในสิ่งที่เรียน มีทักษะในการเชื่อมโยงความคิด และนำประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในการแก้ไขสถานการณ์ได้<BR/><BR/><BR/>แหล่งข้อมูล<BR/>www.edu.cmu.ac.th/~soontaree/Pdf/intregation.pdf<BR/><BR/>www.laem-rang.com/images/1146962073/report103.doc<BR/><BR/>images.somnuek.multiply.com/attachment/0/R6aoKwoKCB0AAArZAFo1/โครงการการบูรณาการการเรียนการสอนRERU.pdf?nmid...<BR/><BR/>eclassnet.kku.ac.th/etraining/file/1203740463-activity3.doc<BR/><BR/>http://www.ttc.ac.th/text/buranakan.html<BR/><BR/>จากhttp://school.obec.go.th/tsb/webtsb/Buranakarn.pdf<BR/><BR/>นายเอกชัย ภูมิระรื่น 0647034Unknownhttps://www.blogger.com/profile/14339241052453884736noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-68774334865848596872008-11-28T00:20:00.000+07:002008-11-28T00:20:00.000+07:00นางสาวกษมา มาลาแวจันทร์ รหัส 0647244ลักษณะของก...นางสาวกษมา มาลาแวจันทร์ รหัส 0647244<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ<BR/><BR/>1. เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ เพราะในปัจจุบันนี้ปริมาณของความรู้มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รวมทั้งมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเป็นลำดับ การเรียนการสอนด้วยวิธีการเดิม อาทิ การบอกเล่า การบรรยายและการท่องจำ อาจจะไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพได้ ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเองว่าในองค์ความรู้หลายหลากนั้น อะไรคือสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริง ตนควรแสวงหาความรู้เพื่อตอบสนอง ความสนใจเหล่านั้นได้อย่างไร เพียงใด ด้วยกระบวนการเช่นไรซึ่งแน่นอนว่ากระบวนการเรียนการสอนลักษณะนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences)ไม่ใช่น้อย<BR/><BR/>2. เป็นการบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ นั่นคือให้ความสำคัญแก่ จิตพิสัย คือเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ แก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงองค์ความรู้หรือพุทธิพิสัยแต่เพียงอย่างเดียว อันที่จริงการทำให้ผู้เรียนเกิดความซาบซึ้งขึ้นเสียก่อนที่จะได้ลงมือศึกษานั้น นับได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นทั้งแก่ผู้สอนและผู้เรียน<BR/><BR/>3. บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำในข้อนี้ก็มีนัยแห่งความสำคัญและความสัมพันธ์เช่นเดียวกับที่ได้กล่าวไว้แล้วในข้อสอง เพียงแต่เปลี่ยนจิตพิสัยเป็นทักษะพิสัยเท่านั้น<BR/><BR/>4. บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน คือการตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียนว่าเมื่อได้ผ่าน กระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว สิ่งที่เรียนที่สอนในห้องเรียนจะต้องมีความหมายและมีคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/><BR/>5.บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้เกิด ความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน การบูรณาการความรู้ของวิชาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือเพื่อตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรจะกระทำในขั้นตอนของบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/><BR/><< อ้างอิง >><BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ28 พฤศจิกายน 2551จาก http://course.eau.ac.th/newlib/eaulibrary/newsletter/newsletter12/learn.html<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ28 พฤศจิกายน 2551จาก http://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/วิธีสอน.doc<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ28 พฤศจิกายน 2551จาก http://school.obec.go.th/tsb/webtsb/Buranakarn.pdf<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ28 พฤศจิกายน 2551จาก eclassnet.kku.ac.th/etraining/file/1060829482-pro.docfernhttps://www.blogger.com/profile/15650732577954070931noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-76526497410515571622008-11-28T00:06:00.000+07:002008-11-28T00:06:00.000+07:00นายปริญญา พวงจันทร์ 647252ลักษณะสำคัญของบูรณาการ1...นายปริญญา พวงจันทร์ 647252<BR/><BR/>ลักษณะสำคัญของบูรณาการ<BR/>1.นำเอาความรู้อื่นที่ใกล้เคียงกันกับเรื่องที่กำลังสอนมาสัมพันธ์กัน<BR/>2.นำเอาความรู้เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆที่เป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่กำลังสอนมาสัมพันธ์กัน<BR/>3.ปรับงานที่ให้เด็กทำให้มีลักษณะสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคม<BR/>4.พยายามนำสิ่งที่เป็นแกนเข้าไปผนวกกับสิ่งที่กำลังสอนทุกครั้ง ที่มีโอกาสจะสอดแทรกแกนดังกล่าวนี้ อาจเป็นความคิดรวบยอด ทักษะ และค่านิยม<BR/>5.บูรณาการเชิงเนื้อหาวิชา คือ ผสมผสานเนื้อหาวิชาในลักษณะของการหลอมรวมแบบแกน หรือแบบสหวิทยาการ<BR/>6.บูรณาการเชิงวิธีการ คือ การผสมผสานวิธีการเรียนการสอนแบบต่างๆโดยใช้สื่อประสม และใช้วิธีการประสมได้มากที่สุด<BR/>7.เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้ และกระบวนการเรียนรู้ เพราะในปัจจุบันปริมาณของความรู้มีมาก ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเอง<BR/>8.เป็นการบูรณาการระหว่างพัฒนาการทางความรู้และพัฒนาการทางจิตใจคือให้ความสำคัญแก่จิตพิสัย<BR/>9.เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำคือให้ความสำคัญกับทักษะพิสัย<BR/>10.เป็นการบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียน กับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน<BR/>11.เป็นการบูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ เจตคติ และการกระทำที่เหมาะสม<BR/>ลักษณะบูรณาการในการศึกษา<BR/>1.การบูรณาการในหลักสูตร เป็นการผสมผสานรวมวิชาต่างๆเข้าด้วยกัน<BR/>2.บูรณาการเชิงวิธีการ คือการผสมผสานวิธีการเรียนการสอนแบบต่างๆโดยใช้สื่อประสม และใช้วิธีการประสมได้มากที่สุด<BR/><BR/>แหล่งอ้างอิง<BR/><BR/>ธำรง บัวศรี (2532:180-181,อ้างถึงใน อรทัย มูลคำ และคณะ 2543:12)<BR/><BR/>สรุปการสัมมนาของนิสิตปริญญาโท การสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2526:4/14,อ้างถึงใน อาพันธ์ชนิตร์ จันทร์มโน 2534:40-41)<BR/><BR/>สุมิตร คุณานุกร (2518:41)<BR/><BR/>เสริมศรี ไชยศร (2526:55)<BR/><BR/>อรทัย มูลคำ และคนอื่นๆ (2543:12, อ้างถึงใน อมรรัตน์ สูนย์กลาง 2544:48-49)Unknownhttps://www.blogger.com/profile/00117278497674387144noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-28664303952463321322008-11-27T23:32:00.000+07:002008-11-27T23:32:00.000+07:00สุมณฑิรา นิยะมะ 06472591. บูรณาการระหว่างความรู้แล...สุมณฑิรา นิยะมะ 0647259<BR/><BR/>1. บูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้<BR/>ปัจจุบันเนื้อหาความรู้มีมากมายที่จะต้องเรียนรู้หากไม่ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ทันสมัยมาใช้จะทำให้<BR/>เรียนรู้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดได้ จึงต้องมีการนำวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่ๆ มาใช้ เช่น การสอนโดย<BR/>วิธีการบอกเล่า ท่องจำจะทำให้ได้ปริมาณความรู้หรือเนื้อหาสาระไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้จึงต้อง<BR/>เลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เหมาะสมการสอนลักษณะนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล(Individual Differences) มิใช่น้อย<BR/>2. บูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และทางจิตใจ<BR/>การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญแก่เจตคติ<BR/>ค่านิยม ความสนใจและสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ ก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือ<BR/>ศึกษาซึ่งเป็นการจูใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี<BR/>3. บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ<BR/>การเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญ<BR/>ระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง<BR/>4. บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนและชีวิตประจำวัน<BR/>การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตเมื่อผ่านการเรียนรู้แล้วต้องมีความหมายและคุณค่า<BR/>ต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/>5. บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ<BR/>เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ เจตคติและการกระทำ ที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรกระทำในขั้นตอนการบูรราการหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/><BR/><BR/>....แหล่งอ้างอิงคร่า....<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551 จากhttp://wasun.newsit.es/buranagan.doc<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551<BR/>จากhttp://realjune.multiply.com/journal/item/63<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551 จากhttp://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.html<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551 จากhttp://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/วิธีสอน.doc<BR/><BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551 จากhttp://www.kroobannok.com/blog/view.php?article_id=3735สุมณฑิราhttps://www.blogger.com/profile/00916046399806980201noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-91223410471993643542008-11-27T23:30:00.000+07:002008-11-27T23:30:00.000+07:00This comment has been removed by the author.สุมณฑิราhttps://www.blogger.com/profile/00916046399806980201noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-90735240136798867982008-11-27T23:27:00.000+07:002008-11-27T23:27:00.000+07:00นางสาวกษมา มาลาแวจันทร์ รหัส 0647244งานนวัตกรร...นางสาวกษมา มาลาแวจันทร์ รหัส 0647244<BR/><BR/>งานนวัตกรรมเก่าอ่ะค่ะที่หาไม่เจอ<BR/><BR/>หนูแนบไฟล์ส่งใหม่ไปแล้วนะค่ะ<BR/><BR/>kasama.malawaechan@gmail.comfernhttps://www.blogger.com/profile/15650732577954070931noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-66579295131138155162008-11-27T23:04:00.000+07:002008-11-27T23:04:00.000+07:00พัชรินทร์ เรือนสูง รหัส 0647254ลักษณะของการจัดการเ...พัชรินทร์ เรือนสูง รหัส 0647254<BR/>ลักษณะของการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ มี 5 วิธี แต่ละวิธีมีรายละเอียดดังต่อไปนี้<BR/>1.การบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้<BR/>ปัจจุบันเนื้อหาความรู้มีมากมายที่จะต้องเรียนรู้หากไม่ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ทันสมัยมาใช้จะทำให้เรียนรู้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดได้จึงต้องมีการนำวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่ ๆ มาใช้ เช่น การสอนโดยวิธีการบอกเล่า ท่องจำจะทำให้ได้ปริมาณความรู้หรือเนื้อหาสาระไม่เพียงพอกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้จึงต้องเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่เหมาะสม<BR/>2.การบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และทางจิตใจ การเรียนรู้ที่ดีนั้นผู้เรียนต้องมีความอยากรู้อยากเรียนด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญแก่เจตคติ ค่านิยม ความสนใจและสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ ก่อให้เกิดความซาบซึ้งก่อนลงมือศึกษาซึ่งเป็นการจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี<BR/>3.การบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ<BR/>การเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้สู่การปฏิบัติได้นั้นถือเป็นการดีมาก ดังนั้นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง<BR/>4.การบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนและชีวิตประจำวัน การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตเมื่อผ่านการเรียนรู้แล้วต้องมีความหมายและคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/>5.การบูรณาการระหว่างวิชาต่าง ๆ<BR/>เพื่อให้เกิดความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริงตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียน<BR/><BR/>อ้างอิงจาก<BR/>การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เข้าถึงเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2551 จาก http://www.nsdv.go.th/commerce/integrated/manual.doc<BR/>การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เข้าถึงเมื่อ 27พฤศจิกายน 2551 จาก http://www.kruusa.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=24<BR/>การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เข้าถึงเมื่อ 27พฤศจิกายน 2551 จากhttp://yamong1.multiply.com/journal/item/6/6<BR/>การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เข้าถึงเมื่อ 27พฤศจิกายน 2551 จากhttp://wasun.newsit.es/buranagan.doc<BR/>การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เข้าถึงเมื่อ 27พฤศจิกายน 2551 จาก http://chainan-lm.blogspot.com/2008/01/learning-management.htmlพัชรินทร์ 0647254https://www.blogger.com/profile/05859650054587284650noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-37848123300876860822008-11-27T23:01:00.000+07:002008-11-27T23:01:00.000+07:00This comment has been removed by the author.พัชรินทร์ 0647254https://www.blogger.com/profile/05859650054587284650noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-7615386734229712652008-11-27T20:44:00.000+07:002008-11-27T20:44:00.000+07:00จารุวรรณ ยิ่งยงค์ รหัส 0647025ลักษณะของการบูรณากา...จารุวรรณ ยิ่งยงค์ รหัส 0647025<BR/>ลักษณะของการบูรณาการมี 5 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีลักษณะดังนี้<BR/>1. การบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ ปัจจุบันนี้ปริมาณของความรู้มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รวมทั้งมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเป็นลำดับ การเรียนการสอนด้วยวิธีการเดิม อาทิ การบอกเล่า การบรรยายและการท่องจำ อาจจะไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพได้ ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเองว่าในองค์ความรู้หลายหลากนั้น อะไรคือสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริง ตนควรแสวงหาความรู้เพื่อตอบสนองความสนใจเหล่านั้นโดยกระบวนการเรียนการสอนลักษณะนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences)<BR/>2. การบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ นั่นคือให้ความสำคัญแก่ จิตพิสัย คือเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ แก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงองค์ความรู้หรือพุทธิพิสัยแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นทั้งแก่ผู้สอนและผู้เรียน<BR/>3. การบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ เป็นการให้ความสำคัญระหว่างองค์ความรู้ที่ศึกษากับการนำไปปฏิบัติจริงโดยนำความรู้ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง <BR/>4. การบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน คือ การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียนว่าเมื่อได้ผ่านกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว สิ่งที่เรียนที่สอนในห้องเรียนจะต้องมีความหมายและมีคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/>5. การบูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้เกิด ความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน การบูรณาการความรู้ของวิชาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือเพื่อตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรจะกระทำในขั้นตอนของบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/><BR/>แหล่งอ้างอิง<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จากhttp://www.nsdv.go.th/commerce/integrated/integraded.htm<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จาก http://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99.doc<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จากhttp://buranarom.spaces.live.com/Blog/cns!120B998AC062DA4E!271.entry<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จาก<BR/>http://www.ripn-math.com/doc/aa_012.doc<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จากhttp://www.atts.rtaf.mi.th/MyWebSQA3/index/my%20document/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A349.htm<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จาก<BR/>http://gotoknow.org/blog/pacharee/104992<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.51. จากhttp://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.htmlAnonymoushttps://www.blogger.com/profile/16479737148590617395noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-75483301894781386842008-11-27T19:57:00.000+07:002008-11-27T19:57:00.000+07:00สิริวรรณ 0647258ลักษณะของบูรณาการ มี 5 วิธี ดังนี้...สิริวรรณ 0647258<BR/>ลักษณะของบูรณาการ มี 5 วิธี ดังนี้ <BR/>1. การบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ <BR/>ผู้เรียนจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเองว่า อะไรคือสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริงและจะแสวงหาความรู้ เพื่อตอบสนองความสนใจเหล่านั้นได้อย่างไร เพียงใดและด้วยกระบวนการเช่นย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล <BR/>2. การบูรณาการระหว่างการพัฒนาการทางความรู้ และการพัฒนาทางจิตใจ<BR/>คือให้ความสำคัญแก่เจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงความรู้แต่เพียงอย่างเดียว <BR/>3.การบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ <BR/>เป็นความสัมพันธ์ของบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ คือให้ความสำคัญกับ การทดลองปฏิบัติแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้<BR/>4. การบูรณาการระหว่างที่โรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน<BR/>คือการตระหนักถึงหลักความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียน<BR/> 5. การบูรณาการ ระหว่างวิชาต่าง ๆ<BR/>เพื่อให้ผู้เรียนมี ความรู้ เจตคติ และการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสนใจของผู้เรียนสนองต่อคุณค่าในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้เรียนแต่ละคน <BR/>อ้างอิงจาก<BR/>http://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.html<BR/>http://www.ttc.ac.th/text/buranakan.html<BR/>http://www.kroobannok.com/blog/view.php?article_id=3735<BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551 จากhttp://www.wk.ac.th/project/kanyarat/project2/วิธีสอน.doc<BR/>ถาวร นามลาพุทธา.การพัฒนาครูด้านการจัดทำแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการโรงเรียนบ้านขามคุรุราษฎร์อุปถัมภ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ขอนแก่น เขต 2.ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต.บริหารการศึกษา.มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย,2550<BR/>อรุณ ใจปานแก่น.แนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ แบบบูรณาการ กรณีศึกษา โรงเรียนบ้านวังหินซา สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2.ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต.บริหารการศึกษา.มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย,2551<BR/>ลักษณะการบูรณาการ.เข้าถึงเมื่อ 27 พ.ย.2551 จากhttp://school.obec.go.th/tsb/webtsb/Buranakarn.pdfsiriwanhttps://www.blogger.com/profile/08005649026206099489noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-13262148437932287632008-11-27T16:40:00.000+07:002008-11-27T16:40:00.000+07:00รัชนาภา บุญประสพ 0647031ลักษณะของบูรณาการที่รวบรวม...รัชนาภา บุญประสพ 0647031<BR/>ลักษณะของบูรณาการที่รวบรวมมาได้ ส่วนใหญืมี 3 ลักษณะดังนี้<BR/>แบบที่ 1. ลักษณะของการบูรณาการ โดย ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์<BR/> 1. การเชื่อมโยง การนำสิ่งหนึ่งหรือหลายๆสิ่ง มาเชื่อมกับสิ่งหนึ่งที่อยู่ในลักษณะแกนกลาง ทำให้เกิดความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายที่แสดงถึงความเกี่ยวพันมีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างกัน<BR/> 2. การรวมกัน การนำสิ่งต่างๆตั้งแต่ 2 สิ่งขึ้นไปมารวมกันเพื่อทำให้เกิดความสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม และใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆ เหล่านั้นรวมกันได้<BR/> 3. การประสาน การทำให้สิ่งต่างๆ ที่ทำหน้าที่ของตน ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน เข้ากันสนิทและเป็นไปอย่างสอดคล้อง เช่น การขับร้องเพลงประสานเสียง ฯลฯ<BR/> 4. การผนวก เป็นการรวมสิ่งหนึ่ง เป็นของ อีกสิ่งหนึ่งอย่างสมบูรณ์และเป็นการทำให้สิ่งที่มีอยู่ในภาพรวมดีขึ้นนกว่าการแยกส่วนกันอยู่<BR/> 5. การเติมเต็ม เป็นลักษณะการเพิ่มเติมส่วนที่ยังบกพร่องหรือยังขาดของสิ่งสิ่งหนึ่งให้เกิดความสมบูรณ์<BR/>แบบที่ 2<BR/> 1. เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ เพราะในปัจจุบันนี้ปริมาณของความรู้มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รวมทั้งมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเป็นลำดับ การเรียนการสอนด้วยวิธีการเดิม อาทิ การบอกเล่า การบรรยายและการท่องจำ อาจจะไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพได้ ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเองว่าในองค์ความรู้หลายหลากนั้น อะไรคือสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริง ตนควรแสวงหาความรู้เพื่อตอบสนองความสนใจเหล่านั้นได้อย่างไร เพียงใด ด้วยกระบวนการเช่นไร ซึ่งแน่นอนว่า กระบวนการเรียนการสอนลักษณะนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences)ไม่ใช่น้อย<BR/> 2. เป็นการบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ นั่นคือให้ความสำคัญแก่ จิตพิสัย คือเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ แก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงองค์ความรู้หรือพุทธิพิสัยแต่เพียงอย่างเดียว อันที่จริงการทำให้ผู้เรียนเกิดความซาบซึ้งขึ้นเสียก่อนที่จะได้ลงมือศึกษานั้น นับได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นทั้งแก่ผู้สอนและผู้เรียน<BR/> 3.บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำในข้อนี้ก็มีนัยแห่งความสำคัญและความสัมพันธ์ เช่นเดียวกับที่ได้กล่าวไว้แล้วในข้อสอง เพียงแต่เปลี่ยน จิตพิสัยเป็นทักษะพิสัยเท่านั้น<BR/> 4.บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน คือ การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียนว่าเมื่อได้ผ่านกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว สิ่งที่เรียนที่สอนในห้องเรียนจะต้องมีความหมายและมีคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/> 5.บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้เกิด ความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน การบูรณาการความรู้ของวิชาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือเพื่อตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรจะกระทำในขั้นตอนของบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/>แบบที่ 3<BR/> 1.การบูรณาการเชิงเนื้อหาสาระ เป็นการผสมผสานเชื่อมโยงเนื้อหาสาระในลักษณะการหลอมรวมกันโดยการตั้งเป็นหน่วย( Unit ) หรือหัวเรื่อง ( Theme )<BR/> 2.การบูรณาการเชิงวิธีการ เป็นการผสมผสานวิธีการสอนแบบต่าง ๆ เข้าในการสอน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายวิธี การสนทนา การอภิปราย การใช้คำถาม การบรรยาย การค้นคว้าและการทำงานกลุ่ม การไปศึกษานอกห้องเรียน และการนำเสนอข้อมูลเป็นต้น<BR/> 3.การบูรณาการความรู้กับกระบวนการเรียนรู้ โดยออกแบบการเรียนรู้ให้มีทั้งการให้ความรู้และกระบวนการไปพร้อม ๆ กัน เช่น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และกระบวนการสร้างความคิดรวบยอดเป็นต้น<BR/> 4.การบูรณาการความรู้ ความคิด กับคุณธรรม โดยเน้นทั้งพุทธิพิสัยและจิตพิสัยเป็นการเรียนที่สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อม ๆ กัน เพื่อที่นักเรียนจะได้เป็น “ผู้มีความรู้คู่คุณธรรม” <BR/> 5.การบูรณาการความรู้กับการปฏิบัติ เน้นการปฏิบัติจริงควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้<BR/> 6.การบูรณาการความรู้ในโรงเรียนกับชีวิตจริงของนักเรียน พยายามให้เด็กได้เรียนรู้เนื้อหาที่สัมพันธ์กับชีวิตจริงของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าและความหมายในสิ่งที่เรียน<BR/><BR/>อ้างอิงจาก<BR/> ดร. สุวิทย์ มูลคำ. กลยุทธ์การสอนคิดบูรณาการ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บริษัทดวงกลมสมัย จำกัด, 2548<BR/> http://gotoknow.org/blog/shakirin/115447<BR/>http://thesis.swu.ac.th/swudis/Cur_Re_Dev/Tugsina_K.pdf<BR/>www.ripn-math.com/doc/aa_012.doc<BR/>http://mail.vcharkarn.com/vcafe/126587<BR/>http://202.142.219.4/vcafe/126587<BR/>http://learners.in.th/blog/pajeenut/76987<BR/>http://gotoknow.org/blog/pacharee/104992<BR/>http://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.html~cotton~https://www.blogger.com/profile/02509764910238847652noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-24714737878626194112008-11-27T16:19:00.000+07:002008-11-27T16:19:00.000+07:00สยาม อัจฉริยประภา 0647033ลักษณะสำคัญของการบูรณาการ...สยาม อัจฉริยประภา 0647033<BR/>ลักษณะสำคัญของการบูรณาการ <BR/><BR/>1.เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ เพราะในปัจจุบันนี้ปริมาณของความรู้มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รวมทั้งมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเป็นลำดับ การเรียนการสอนด้วยวิธีการเดิม อาทิ การบอกเล่า การบรรยายและการท่องจำ อาจจะไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพได้ ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเองว่าในองค์ความรู้หลายหลากนั้น อะไรคือสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริง ตนควรแสวงหาความรู้เพื่อตอบสนองความสนใจเหล่านั้นได้อย่างไร เพียงใด ด้วยกระบวนการเช่นไร ซึ่งแน่นอนว่า กระบวนการเรียนการสอนลักษณะนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences)ไม่ใช่น้อย<BR/>2.เป็นการบูรณาการระหว่างพัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ นั่นคือให้ความสำคัญแก่ จิตพิสัย คือเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ แก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงองค์ความรู้หรือพุทธิพิสัยแต่เพียงอย่างเดียว อันที่จริงการทำให้ผู้เรียนเกิดความซาบซึ้งขึ้นเสียก่อนที่จะได้ลงมือศึกษานั้น นับได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นทั้งแก่ผู้สอนและผู้เรียน<BR/>3.บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำในข้อนี้ก็มีนัยแห่งความสำคัญและความสัมพันธ์ เช่นเดียวกับที่ได้กล่าวไว้แล้วในข้อสองเพียงแต่เปลี่ยนจิตพิสัยเป็นทักษะพิสัย เท่านั้น<BR/>4.บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน คือ การตระหนักถึงความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียนว่าเมื่อได้ผ่านกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว สิ่งที่เรียนที่สอนในห้องเรียนจะต้องมีความหมายและมีคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/>5.บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้เกิด ความรู้ เจตคติและการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนอย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน การบูรณาการความรู้ของวิชาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือเพื่อตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรจะกระทำในขั้นตอนของบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/><BR/><BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. <BR/>สืบค้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. จาก<BR/>http://www.ripn-math.com/doc/aa_012.doc<BR/>http://gotoknow.org/file/classroom/งาน.doc<BR/>http://gotoknow.org/blog/apinya16/208091<BR/>http://www.nsdv.go.th/commerce/integrated/manual.doc<BR/>http://realjune.multiply.com/journal/item/63Unknownhttps://www.blogger.com/profile/08970154682943246338noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-50003624019098597002008-11-27T16:00:00.000+07:002008-11-27T16:00:00.000+07:00ณิชาภา 0647029ลักษณะสำคัญของบูรณาการ ธำรง ...ณิชาภา 0647029<BR/><BR/>ลักษณะสำคัญของบูรณาการ <BR/> ธำรง บัวศรี (2532) ได้กล่าวถึงลักษณะสำคัญ ของการบูรณาการไว้ 5 ประการ ดังต่อไปนี้<BR/>1. เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ เพราะในปัจจุบันนี้ ปริมาณของความรู้มีมากเป็นทวีคูณ รวมทั้งมีความซ้ำซ้อนมากขึ้นเป็นลำดับ การเรียนการสอนด้วยวิธีการเดิม อาทิ การบอกเล่า การบรรยาย และท่องจำ อาจไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพได้ ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนว่าในองค์ความรู้หลากหลายนั้นอะไรคือสิ่งที่ตนสนใจอย่างแท้จริง ตนควรจะแสวงหาความรู้เพื่อตอบสนองความสนใจเหล่านั้นได้อย่างไร เพียงใด และด้วยกระบวนการเช่นไร ซึ่งแน่นอนว่ากระบวนการเรียนการสอนลักษณะนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล(Individual Differences) <BR/>2. เป็นการบูรณาการระหว่าง พัฒนาการความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ นั่นคือให้ความสำคัญแก่จิตพิสัย คือ เจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพ แก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย มิใช่เป็นเพียงแต่องค์ความรู้หรือพุทธิพิสัยเพียงอย่างเดียว อันที่จริงการทำให้ผู้เรียนเกิดความซาบซึ้งเสียก่อนที่จะลงมือศึกษานั้น นับได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ ที่สำคัญยิ่งสำหรับจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นทั้งแก่ผู้สอนและผู้เรียน<BR/>3. เป็นการบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ ความสัมพันธ์ของบูรณาการ ระหว่างความรู้และ การกระทำในข้อนี้ก็มีนัยแห่งความสำคัญ และความสัมพันธ์เช่นเดียวกับที่ได้กล่าวไว้แล้วในข้อที่สอง เพียงแต่เปลี่ยนจิตพิสัยเป็นทักษะพิสัยเท่านั้น <BR/>4. เป็นการบูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน คือ การตระหนักถึงความสัมพันธ์แห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียนว่าเมื่อได้ผ่านกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว สิ่งที่เรียนที่สอนในห้องเรียน จะต้องมีความหมายมีคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง<BR/>5. เป็นการบูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ เจตคติและการกระทำ ที่เหมาะสมกับความต้องการและความสนใจของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง ตอบสนองต่อคุณค่าในการดำรงชีวิตของผู้เรียนแต่ละคน การบูรณาการความรู้ชองวิชาต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือการตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรกระทำในขั้นตอนการบูรราการหลักสูตรและการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. จาก<BR/>http://realjune.multiply.com/journal/item/63<BR/> <BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. จาก<BR/>http://school.obec.go.th/anubanchun/link/konrukpa/konrukpa4.htm<BR/><BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. จาก<BR/>http://www.geocities.com/jackypoll2/bulanakran.html<BR/>ลักษณะของการบูรณาการ. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย. จาก<BR/>http://wasun.newsit.es/buranagan.docNootunhttps://www.blogger.com/profile/08763184575724315454noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-4945691340661618340.post-68667269244420856942008-11-25T15:21:00.000+07:002008-11-25T15:21:00.000+07:00นิพิฐพร โกมลกิติศักดิ์ 0647250ลักษณะของบูรณาการ1....นิพิฐพร โกมลกิติศักดิ์ 0647250<BR/><BR/>ลักษณะของบูรณาการ<BR/><BR/>1. การบูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ <BR/>ปัจจุบันนี้ปริมาณของความรู้ในวิชาต่างๆมีมากขึ้น การเรียนการสอนวิธีเดิม เช่น การบอกเล่า การบรรยายและการท่องจำ อาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ผู้เรียนควรจะเป็นผู้สำรวจความสนใจของตนเองว่าในองค์ความรู้ที่หลากหลายนั้น อะไรคือสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริงและจะแสวงหาความรู้ เพื่อตอบสนองความสนใจเหล่านั้นได้อย่างไร เพียงใดและด้วยกระบวนการเช่นย่อมขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างบุคคล <BR/><BR/>2. การบูรณาการระหว่างการพัฒนาการทางความรู้ และการพัฒนาทางจิตใจ<BR/>คือให้ความสำคัญแก่จิตพิสัย คือเจตคติ ค่านิยม ความสนใจ และสุนทรียภาพแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงความรู้แต่เพียงอย่างเดียว วิธีการทำให้ผู้เรียนเกิดความซาบซึ้งขึ้นก่อนที่จะลงมือศึกษานั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งจูงใจให้เกิดการเรียนรู้ทั้งผู้สอนและผู้เรียน <BR/><BR/>3.การบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ <BR/>เป็นความสัมพันธ์ของบูรณาการระหว่างความรู้และการกระทำ คือให้ความสำคัญกับทักษะพิสัย การทดลองปฏิบัติแก่ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วย ไม่ใช่เน้นแต่เพียงความรู้แต่เพียงอย่างเดียว<BR/> <BR/>4. การบูรณาการระหว่างที่โรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้เรียน<BR/> คือการตระหนักถึงหลักความสำคัญแห่งคุณภาพชีวิตของผู้เรียนว่า เมื่อได้ผ่านกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว สิ่งที่สอนในห้องเรียนจะต้องมีความหมาย และมีคุณค่าต่อชีวิตของผู้เรียนอย่างแท้จริง สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้<BR/><BR/>5. การบูรณาการ ระหว่างวิชาต่าง ๆ<BR/> เพื่อให้ผู้เรียนมี ความรู้ เจตคติ และการกระทำที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสนใจของผู้เรียนสนองต่อคุณค่าในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้เรียนแต่ละคน การบูรณาการความรู้วิชาต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการหรือเพื่อตอบปัญหาที่ผู้เรียนสนใจ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรกระทำในขั้นตอนของ การบูรณาการการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่ง<BR/><BR/>อ้างอิงจาก<BR/><BR/>ถาวร นามลาพุทธา.การพัฒนาครูด้านการจัดทำแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการโรงเรียนบ้านขามคุรุราษฎร์อุปถัมภ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ขอนแก่น เขต 2.ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต.บริหารการศึกษา.มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย,2550<BR/><BR/>บุณยรัตน์ สิงห์พันดอน.การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. การประถมศึกษา. มหาวิทยาลัยขอนแก่น,2549<BR/><BR/>ประโรม กุ่ยสาคร.การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องการคูณการหารโดยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. นครปฐม : สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2547.<BR/><BR/>พรศิริ โสภาราษฎร์.ผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องระบบนิเวศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการสอนบูรณาการแบบสอดแทรก. ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยขอนแก่น,2549<BR/><BR/>อรุณ ใจปานแก่น.แนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ แบบบูรณาการ กรณีศึกษา โรงเรียนบ้านวังหินซา สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2.ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต.บริหารการศึกษา.มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย,2551givesosuhttps://www.blogger.com/profile/15097840968563087490noreply@blogger.com